วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ORIGAMI


ศิลปะงานพับกระดาษเป็นรูปแบบต่างๆ (Origami)



        การพับกระดาษ (Origami) หรือเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า 折り紙 ซึ่งมีความหมายมาจากคำว่า โอริ ซึ่งแปลว่า “การพับ” และ กามิ ที่แปลว่า “กระดาษ” งานศิลปะที่เรียกว่าโอริกามิ เป็นศิลปะที่ใช้กระดาษพับขึ้นมาเป็นรูปร่างต่างๆ โดยเป็นศิลปะดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่นมานานมากแล้ว ประวัติเกี่ยวกับโอริกามิ เริ่มมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และในที่สุดก็โด่งดังไปทั่วโลกในช่วงกลางศตวรรษของปี 1900 เป็นต้นมา ซึ่งในปัจจุบันนี้ ศิลปะการพับกระดาษแบบญี่ปุ่นได้พัฒนาขึ้นมากลายเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ที่มีรูปแบบเกิดขึ้นมากมาย งานศิลปะที่จัดเป็นโอริกามินั้นจะต้องเป็นการนำเอากระดาษมาพับหรือดัดงอให้เป็นรูปทรงต่างๆโดยการใช้เทคนิคคล้ายกับการปั้นและการจัดแต่งชิ้นงาน และจะต้องไม่มีการตัดกระดาษหรือใช้กาวยึดติดใดๆ ในกรณีที่ใช้การตัดกระดาษและติดกาวในชิ้นงาน จะเรียกว่าเป็นศิลปะแบบ คิริกามิ (kirigami) อย่างเช่นการทำ โมเดลกระดาษ แบบต่างๆ (Papercraft Model) เป็นต้นการพับกระดาษโดยพื้นฐานดั้งเดิมแล้วจะเป็นการพับแบบง่ายๆ แต่สามารถสร้างรูปทรงขึ้นมาเป็นงานออกแบบที่สวยงามได้ ต่างกับงานโอริกามิสมัยใหม่ ที่สลับซับซ้อนขึ้น และท้าทายกับศิลปินที่จะต้องใช้ฝีมือและสมาธิในการสร้างชิ้นงานมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าจะพูดถึงแบบการพับกระดาษที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการพับกระดาษที่โด่งดังที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นการพับกระดาษเป็นรูปนกกระเรียน (Japanese paper crane) ที่น่าจะพบเห็นได้บ่อยที่สุด โดยทั่วไปแล้ว งานโอริกามิ จะเริ่มจากการใช้กระดาษสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยสองด้านอาจจะมีสีด้านใดด้านหนึ่ง มีสีและลายทั้งสองด้าน หรืออาจจะไม่มีสีหรือลวดลายก็ได้ แบบและวิธีพับโอริกามี ในสมัยก่อน อาจจะไม่ได้เริ่มจากการใช้กระดาษสี่เหลี่ยมจตุรัส อย่างเช่น อาจจะใช้กระดาษสี่เหลี่ยมผื่นผ้า เช่นการพับเรือใบ หรือการพับดอกไม้จากกระดาษห้าเหลี่ยมเป็นต้น สำหรับในปัจจุบัน กระดาษที่เราพบเห็นกันบ่อยๆและหาได้ง่ายก็น่าจะเป็นกระดาษถ่ายเอกสาร หรือกระดาษ A4 ที่ซื้อได้เป็นรีมตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป กระดาษที่ใช้ในการพับโอริกามิ ที่จริงแล้วสามารถใช้กระดาษชนิดใดก็ได้ สำหรับกระดาษ A4 ธรรมดา ก็สามารถเอามาตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส แล้วสามารถใช้งานได้เหมือนกัน
กระดาษที่ใช้สำหรับการพับ – กระดาษสำหรับโอริกามิ (Origami paper)ตามประเพณีเดิมของการพับกระดาษแบบญี่ปุ่นแล้ว กระดาษที่ใช้ในการพับจะเป็นกระดาษเฉพาะที่ใช้เพื่องานศิลประการพับ เรียกว่ากระดาษกามิและกระดาษชิโยกามิ แต่สำหรับกระดาษที่น่าจะเห็นได้บ่อยและหาง่ายกว่า ก็คือกระดาษกามิ กระดาษชนิดนี้จะมีลักษณะที่บาง เหนียว และมักจะพิมพ์สีด้านหนึ่ง ราคาจะค่อนข้างถูก สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายกระดาษใหญ่ๆ ส่วนสำหรับกระดาษวาชิ จะเป็นการเรียกกระดาษที่ทำขึ้นเองโดยตัวศิลปินเพื่อใช้สำหรับงานพับโอริกามิ ในปัจจุบันก็มีขายอยู่ แต่จะมีราคาแพงมาก กระดาษวาชิจะมีลักษณะพิเศษที่มีความเหนียวมาก แต่ก็ยังคงนุ่ม กระดาษวาชิจะพับในส่วนที่เป็นมุมแหลมได้ยากกว่ากระดาษแบบอื่นๆเนื่องจากว่าจะไม่ค่อยคงรอยพับไว้ และกระดาษแบบสุดท้ายคือกระดาษชิโยกามิ เป็นกระดาษที่มีเนื้อคล้ายกระดาษวาชิ แต่บางกว่าและพับมุมได้ง่ายกว่า มีราคาถูกกว่า และโดยทั่วไปจะพิมพ์ลายต่างๆที่เป็นลายดั้งเดิมของญี่ปุ่นอยู่ด้านหนึ่ง กระดาษชิโยกามิจะมีลักษณะคล้ายๆกระดาษปอนด์ทั่วไป สำหรับกระดาษชนิดอื่นๆที่หาได้ง่ายกว่า ซึ่งอาจจะเอามาพับกระดาษได้อย่างเช่น
กระดาษปอนด์ กระดาษชนิดนี้เป็นกระดาษที่หาได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วๆไป จะขายเป็นรีม อาจจะเรียกว่ากระดาษถ่ายเอกสาร จะมีหลายขนาด แต่ที่พบบ่อยๆก็คือ กระดาษ A4 ซึ่งเป็นกระดาษที่ใช้กันทั่วไป กระดาษปอนด์จะมีขนาดอื่นๆอีกอย่างเช่น กระดาษ A3, กระดาษ A2 หรือ กระดาษขนาด Letter เป็นต้น กระดาษชนิดนี้จะมีเนื้อสีขาว พับง่าย คงรูปได้ดี มีน้ำหนักของกระดาษและคุณสมบัติความเหนียวแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ แต่โดยทั่วๆไปแล้ว ข้อเสียของกระดาษชนิดนี้คือ จะนำมาพับแบบพับกระดาษที่สลับซับซ้อนและมีการพับส่วนเล็กๆหักมุมมากๆไม่ดี เนื่องจากกระดาษจะมีความเปราะ และถ้าพับทบไปมามากๆกระดาษก็มักจะขาดได้ เราสามารถนำเอากระดาษปอนด์มาตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส กระดาษ A4 เมื่อตัดแล้วก็จะได้สี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดประมาณแปดนิ้ว ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับการพับแบบทั่วๆไป สำหรับแบบพับที่ยากๆ เราสามารถใช้กระดาษขนาด A3 ซึ่งเมื่อตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสแล้ว จะได้ขนาดประมาณ 11 นิ้วครึ่ง ซึ่งใหญ่พอที่จะใช้พับแบบที่ซับซ้อนขึ้นได้ นอกจากนั้นแล้วเรายังสามารถใช้กระดาษปอนด์พิมพ์ลายผ่านเครื่องพิมพ์ต่างๆ เพื่อให้ได้สีและลายที่เราต้องการก่อนที่จะนำมาพับ จึงค่อนข้างเหมาะกับการใช้พับคุซุดามะ (ลูกบอลกระดาษ) ที่เราจะสามารถทำเป็นสีและลายที่เราต้องการได้ กระดาษปอนด์สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านเครื่องเขียนทั่วๆไป การเลือกซื้อกระดาษปอนด์ให้เหมาะกับการนำมาพับกระดาษควรที่จะเลือกกระดาษที่มีน้ำหนักต่ำๆ บางๆ แต่มีความเหนียวและคงรูปได้ดี 
กระดาษคราฟท์ สำหรับกระดาษคราฟท์ จะเป็นกระดาษเนื้อหยาบ มักจะเป็นสีน้ำตาล แต่ก็มีแบบที่เป็นสีขาว เรียกว่ากระดาษคราฟท์ฟอกขาว สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ โดยมักจะขายเป็นม้วน กระดาษคราฟท์โดยทั่วไปแล้วสามารถใช้เป็นกระดาษเพื่อฝึกการพับได้ดี เนื่องจากคุณสมบัติที่มีความเหนียวและแข็งแรงมากกว่ากระดาษทั่วๆไป ทำให้สามารถใช้ลองหัดพับได้โดยที่กระดาษไม่ขาด รวมถึงมีราคาถูกและไม่เปื่อยง่าย แต่เนื่องจากกระดาษคราฟท์มักจะหนาและหยาบมากกว่าปกติ รวมทั่วยังเป็นสีน้ำตาลจึงมักจะไม่ใช้ในการพับงานตัวจริง ที่อาจจะต้องการกระดาษที่สวยกว่านี้ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น